สาว ๆ สมัยใหม่ เป็นยุคเป็นสมัยที่ จะทำอะไรต้องตามกระแส กิน เที่ยว ต้องโพส ต้องแชร์ แต่เรื่องเหล่านี้ มันอาจจะทำให้บรรดาแฟนหนุ่มไม่ปลื้มมากนัก สาว ๆ คงต้องศึกษาเรียนรู้ สิ่งรอบตัวต่าง ๆ ให้ มัดใจแฟนหนุ่ม ไม่ให้ชายตามองสาวอื่นสาวใด หรือ นอกใจด้วยวิธีต่าง ๆ เราต้องทำตัวน่ารัก ไม่แก่ เน้นที่ความหอมหวาน และความนุ่มนวล ขนาดที่ว่า ออกไปทำงานข้างนอกเหนื่อย ๆ ก็ต้องกลับมากินข้าวกับสุดที่รักที่บ้านทุกวัน ความหอมหวานที่ว่า เราไม่ได้หมายความไปจนไกลเกินกว่าจะเข้าใจ แค่เพียงยังจำได้ไหมตอนเราจีบกันครั้งแรก ๆ ด้วยความเขินอาย มุขนี้ก็ยังใช้ได้ดีตลอดเวลาที่เรายังรัก และอยู่ด้วยกัน แล้วสิ่งที่หอมหวานตอนจีบกันที่ต้องนำมาใช้ตลอดชีวิตคู่คืออะไร แล้วต้องทำอย่างไร
ความหอมหวานด้วยคำพูด เวลาที่เราแอบชอบกัน แอบจีบกันเมื่อก่อน ใช้แต่คำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกได้ว่า เป็นห่วงเป็นใยกัน คิดถึงกันตลอดเวลา เช่น กินข้าวหรือยัง กินข้าวกับอะไร งานยุ่งหรือเปล่า เป็นต้นถึง แม้มันจะเป็นแค่คำเชย ๆ แต่มันก็ไม่เคยเป็นคำพูดที่ทำร้ายใคร
ขนมของหวาน ที่เคยเอามาฝากกันบ่อย ๆ ตรงนี้ สมัยก่อนตอนที่จีบกันใหม่ ๆ เราคงรู้ดีกว่า แฟนของเราชอบอะไร ร้านไหน แค่เรามีมาฝากสักนิดหน่อย พร้อมกับคำพูดที่หวานกว่าขนมรับรอง รักเราไม่เก่าเลย แน่นอน
เช่น พอดีผ่านร้านขนมที่เธอชอบ นึกถึงเมื่อก่อนตอนแอบชอบเธอก็เลยซื้อมาฝาก แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ขนมจืดไปเลยอย่างแน่นอน
กระดาษโน้ตที่เคยเขียน ลายมือที่เคยหวาน ยังจำได้ไหม ว่าเมื่อก่อน ตอนที่เราไม่มีมือถือ หรือมือถือที่ยังไม่เป็นทีนิยม แค่กระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ กับตัวหนังสือที่ตั้งใจจะให้น่ารัก และสวยที่สุด แค่นี้ก็ทำให้ ความรักของคุณพองโตกว่าลูกโป่งงานวัดแน่นอน
อีกอันที่แถมก่อนเราจะลืม และหายไปกับอดีต คือ รอยยิ้มพร้อมด้วยแววตาจริงใจ มิใช่จำเป็นต้องทำ ตรงนี้ เราสามารถที่จะทำได้โดยไม่ต้อง แวะไปซื้อขนม หรือเขียนให้เมื่อยมือ แต่เรื่องนี้ต้องทำทุกวัน เช้าที่เจอ และเย็นพบ สำคัญมาก ๆ
การเสริมสร้างเสน่ห์ให้ตัวเรา มันสามารถ ใช้กับเพื่อนร่วมงาน หรือ กับทุก ๆ คนได้ ยิ่งเราสามารถทำให้คนรอบข้าง รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ ผลที่จะได้รับกลับมาก็ ทวีคูณขึ้นเท่านั้น ความหอมหวานทุกคนสามารถที่จะสร้างมันขึ้นมาได้ โดยที่ไม่ต้อง ลงทุนอะไรมากนัก แค่เริ่มต้นยิ้มตอนรับกันด้วยความจริงใจ คนที่ได้รับไป ก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที